Thursday, October 12, 2006

บ้านพักตากอากาศชะอำ

บ้านพักตากอากาศชะอำ เชิญชวนครอบครัวกันทาให้ไปพักกันบ่อย ๆ

แม่ใครมานอนที่นี่/คุณแม่บุญช่วย กันทา รูปนี้ถ่ายเดือนเมษายน ปี 2549

อยากบอกว่รักแม่ที่สุดในโลกเลย รูปนี้ถ่ายที่โลตัสกระทุ่มแบนเป็นรูปสติ๊กเกอร์ ประมาณปีพ.ศ.2542

ข่าวดีปีนี้ 2549 น้องเราจะแต่งงาน

รูปถ่ายเมื่อปีพ.ศ.2543 ฉลองรับปริญญานิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยลัยธรรมศาสตร์ของน้องชายคนเล็ก มากันพร้อมหน้าเพื่อแสดงความยินดี เช่นเดียวกับวันที่ 16 ธันวาคม ปีนี้ ขอแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวในอนาคต เป็นที่น่ายินดีสมาชิกครอบครัวกันทาเพิ่มอีก 3 คน น้องโซเฟีย ปีพ.ศ.2545 น้องงามปีพ.ศ.2547 และก็น้องหม่อนปีพ.ศ.2549จ้า

ในเดือนธันวาคม ปี 2549 น้องเราจะแต่งงาน คงไม่ได้ไปร่วมงาน ส่งรูปมาให้ดูบ้าง จะได้ อัฟโหลดเข้าไว้กับหัวข้อนี้ แล้วค่อยฉลองปีหน้าประมาณเดือนกรกฎาคม ปีหน้า 2550 ตอนไปเยี่ยมบ้านนะ อยากไปเที่ยวพิษณุโลก

ส่งมาแล้ว

"วันที่ 16 ธันวานี้ แต่งที่พิษณุโลก ที่กรุงเทพจะมากันไปถ่ายรูปแต่งงานมา อีก 1 เดือน คงเสร็จ เอารูปที่ถ่ายเองมาให้ดูสบายดีนะ สอนโซเฟียพูดภาษาไทยบ้างล่ะเล็ก... "
วันที่ 16 ธันวาคม 2549 จะแต่งงานแล้วเอาการ์ดมาให้ดู ถ่ายจากกล้องไม่ค่อยชัดนะ เล็ก 27/10/49

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับประเทศนอร์เวย์

หัวข้อนี้จะข้ามาเขียนหลังจากสอบเสร็จก่อน คิดว่าหลังคริสต์มาสไปแล้ว ประมาณเดือนมกราคม ใครเข้ามาเยี่ยมชมเว็บแล้วสนใจจะเขียนคำถามฝากไว้ที่ comments ก็ได้ เตรียมคร่าวๆ จะมีเรื่องเกี่ยวกับ การศึกษาต่อที่ประเทศนอร์เวย์ เรื่องเล่าชีวิตความเป็นอยู่ การงาน และวัฒนธรรม

เรื่องเล่าชีวิติความเป็นอยู่
>>ปี พ.ศ.2548>ลองอ่านดูและคิดให้ดีว่า ใครว่าอยู่เมืองนอกสบาย

หวัดดีพร

> > ไม่ได้เขียนคุยกันนานแล้ว คิดถึง สบายดีหรือเปล่า ปรกติพี่ไม่ใช่คนหวาน จะเขียนว่าคิดถึงใครต้องรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เขียนอะไรถึงเพื่อนก็มีน้อยคนที่จะกล้าเขียนว่า รักและคิดถึง บางคนก็สนิทนะ แต่ไม่กล้าเขียนว่า รัก ได้แต่เขียนว่าคิดถึง

ตอบ : หวัดดีเช่นกันค่ะพี่เจี๊ยบ สบายดีค่ะ มาเมืองไทยได้เกือบ 8สัปดาห์แล้วค่ะ สนุกดีมีอะไห้ทำเยอะแยะ ขอบคุณค่ะที่คิดถึง คิดถึงพี่เหมือนกันเห็นไม่ตอบเมล์มานานเลยนะ ดีใจค่ะที่เมล์มาพูดคุย

> > ถ้ายุ่งอยู่ก็ไม่ต้องเขียนตอบ ถ้ามีเวลาเมื่อไรก็เขียนมานะ คือได้อ่านอะไรจากคนที่มีความคิด มีข้อคิดดีๆ มันทำให้คนอ่านได้อะไรจากการอ่านไง

ตอบ: ยุ่งบ้างว่างบ้างค่ะ สนุกกับพาน้องเพียวไปเคสติ้ง งานเข้ามาเยอะมาก แต่ไม่ผ่านสักที แต่ยังไงก็ว่างพอตอบเมล์เพื่อนๆแน่ค่ะ

> > พี่อยากให้น้องมายยื่นเรื่องทำสัญชาติไทยที่สถานทูตนอร์เวย์ เป็นคนสองสัญชาติ แต่แฟนเค้าไม่ยอม เค้าอ่านตามกม. นอร์เวย์ไม่ส่งเสริมให้เลือกถือสองสัญชาติ และถ้าน้องมายอยู่เมืองไทยถือเป็นคนไทย ทางนอร์เวย์ไม่สามารถ claim อะไรได้ทั้งนั้น แฟนเค้ากลัวถ้าทะเลาะกันแล้วเราเอาลูกไปเมืองไทยแล้วไม่คืนมาอยู่นอร์เวย์ ไม่รู้ว่าน้องเพียวถือสองสัญชาติหรือเปล่า และตอนที่พรเอาลูกไปอยู่เมืองไทย และได้ไปเรียนที่โรงเรียนอนุบาลด้วยทำยังไงหละ ต้องขอวีซ่าแบบยาว 3 เดือน เหรอ

ตอบ : เรื่องให้น้องมาย 2สัญชาติ ไม่ควรฟังสามีข้างเดียวนะพี่ เขาจะพูดเข้าข้างตัวเองเพราะกลัวลูกอยากเป็นคนไทย พี่ต้องลองถามคนไทยคนอื่นๆที่นอรเวย์ด้วย มีใครบ้างที่เขามีลูก 2 สัญชาติ พี่ต้องหาข้อมูลจากคนอื่นๆด้วย ว่าทำได้มั้ย เท่าที่อ่าน "ตามกม. นอร์เวย์ไม่ส่งเสริมให้เลือกถือสองสัญชาติ " อ่านแล้วหมายถึง ไม่ส่งเสริม แต่ก็ไม่มีกฏหมายห้ามสักกะหน่อย ไม่ผิดกฏหมายนี่นา น้องเพียวถือ 2สัญชาติ แจ้งเกิดน้องเพียวที่สถานฑูตกรุงเบอร์ลินตั้งอายุ8-9เดือน เขาก็ออกใบเกิดไทยให้ แล้วนำมาเข้าทะเบียนบ้านที่เมืองไทย เดี๋ยวพอน้องเพียวอายุ15 ก็จะทำบัตรประชาชนไทยเหมือนคนไทยทั่วไป จนกว่าจะอายุ 18 ถึงจะเลือกสัญชาติอีกครั้ง ตอนนี้มาเมืองไทยน้องเพียวไม่เคยขอวีซ่า เพราะมีพาสปอร์ตไทย เข้าเมืองไทยก็ยื่นพาสฯไทย เข้าเยอรมันก็ยื่นพาสฯเยอรมัน จะถือติดคู่กันทั้ง 2เล่ม ในกรณีเด็กๆ เจ้าหน้าที่เขารู้ เด็กมี 2สัญชาติ เขาก็ให้โอกาสเด็กที่จะเลือกสัญชาติที่ต้องการในภายหลัง เพราะอนาคตไม่มีใครรู้ว่าเขาอยากเป็นคนไทย หรือคนเยอรมัน เป็นการเปิดเสรีให้สิทธิเด็กๆ ดีค่ะ เรื่องนี้แล้วแต่พ่อแม่ จะมีทัศนและวิสัยทรรศแบบไหน พรเพียงแต่เปิดโอกาสและทางเลือกให้ลูกมากที่สุด ไม่อยากมานั่งเสียดายทีหลัง อย่างเราเกิดมา อายุขนาดนี้ ผ่านโลกมาขนาดนี้ ที่ได้สุขที่ไหนลำบากก็ตอบได้ไม่ยาก ก็ต้องเลือกทางที่ดี โอกาสที่มากให้แก่ลูกแน่นอน สามีพรมีลูกติด 2 คน กับเมียเก่าคนไทย ทุกวันนี้ยังเสียดายเลย ที่ลูกไม่มีโอกาสอะไรๆในไทยเลยแม้แต่น้อย เพราะแม่ไม่ได้ทำอะไรให้เลย เป็นไทยแค่สายเลือดเท่านั้น หากพี่เจี๊ยบจะทะเลาะกับสามี ในขณะที่น้องมายมีเพียงสัญชาติเดียว นั่นไม่ใช่ปัญหา หากจะนำน้องมายหนีมาอยู่ไทย เพราะถ้าอายุน้องเขาไม่ถึง 18ปี ก็เอามาได้เช่นกัน ไม่เกี่ยวว่าไม่มี 2สัญชาติแล้วจะเอาไปไทยไม่ได้ แต่น้องเขาเป็นลูกพี่เจี๊ยบ ลูกของคนไทย อายุไม่ถึง 18ปี จะเอากลับเมือไรก็ได้ แจ้งเกิดน้องเขาเมื่อไหร่ก็ได้ จากนั้นทำพาสฯไทย แค่นี้เขาก็มีสิทธิอยู่ไทยเหมือนคนไทยอื่นๆ ขอเพียงอายุไม่เกิน 18 (ของเยอรมนีไม่เกิน18) หากเป็นลูกพี่เจ๊ยบ น้องมายไม่ว่ายังไงก็มีสิทธิ์อยู่ไทยเช่นกัน สามีพี่เขาห้ามสิ่งนี้ไม่ได้หรอก แม้จะไม่ทำ 2 สัญชาติ แต่ก็เปลี่ยนแปลงที่น้องมายมีเลือดไทยไม่ได้

> > ช่วงนี้หน้าหนาว ปีนี้จะหนาวมากกว่าปีอื่น ตอนกลางวันของวันนี้ยัง ติดลบ 5 เลย ปรกติ จะ 0 หรือ 2-3 องศา ตอนกลางคืนถึงจะติดลบ หนาวไม่เท่าไร มืดอีกด้วย พระอาทิตย์หลับ desperate พรมีเคล็ดลับอะไรให้อยู่ได้ต่อไปในประเทศหนาวแบบนี้ จริงๆ แล้วพี่รู้สึกสิ้นหวังที่จะอดทนอยู่ต่อไป น่าเบื่อ ชีวิตไม่มีความสุข แฟนก็ดี(นิสัยดี แต่เป็นคนน่าเบื่อ ไม่มีชีวิตชีวา) ลูกก็น่ารัก ไม่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ แต่ จากบ้านเกิดเมืองนอนมา สิ่งที่ขาดและสูญเสียไปมีหลายเรื่อง พ่อแม่ พี่น้อง หลาน เพื่อนฝูง การงาน วิถีชีวิตความเป็นอยู่

ตอบ : ความรู้สึกพี่เหมือนพรมากที่สุด จนปีนี้พรขอสามีกลับบ้าน 3 เดือน เพราะเบื่อเยอรมนีมาก วันๆไม่มีแก่ใจทำอะไร นั่งหน้าคอมฯ ตลอด เชทบ้าง หาอะไรอ่านบ้าง ทำเว็บบ้าง แต่ไม่อยากไปไหน ไม่อยากเจอใคร เบื่อไปหมด แม้แต่ทำอาหารให้ลูกกับสามี ทำความสะอาดบ้าน เบื่อๆๆๆ ปล่อยมันรกๆ จิตใจหดหู่สุดๆ แต่ดีที่พรได้มารู้จักกลุ่มนักแต่งเพลง เลยมีอะไรให้ทำ แต่งเพลงจนขายได้ มันเป็นสิ่งที่ท้าทายและตื่นเต้นที่จะทำผลงานออกมา สิ่งนี้ก็เหมือนเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงหัวใจที่หดหู่ได้ตื่นตัวบ้าง ไม่งั้นก็ห่อเหี่ยวสุดๆ พรปล่อยตัว อ้วนมาก ตอนนี้หนักกว่าก่อน 10ก.ก. เสื้อผ้าหาใส่ยาก เบื่อหน้าตัวเอง เบื่อรูปร่างที่อ้วยฉุ จนไม่อยากมีเซ็กส์ เพราะโทษเขาที่บอกแต่ว่า ไม่อ้วนๆๆๆๆๆ แทนที่จะบอกว่าเราอ้วนไปแล้วนะ มาช่วยกันลด แต่กลับมาส่งเสริมว่าไม่อ้วน สวยแล้ว อะไรแบบนี้ ทั้งๆเราอยากจะผอม แต่จะผอมได้ยังไง วันๆเอาแต่นั่งไม่เดินไปไหนเลย จนเริ่มปวดหัวเข่าเวลาลุกจากเก้าอื้ มาเมืองไทย พรทำโน่นทำนี่ เห็นแสงแดดแล้วแอคทีฟมากๆ ถูบ้าน เช็ดบ้านได้ทั้งวัน ได้ไปโน่นไปนี่ หูตาสว่าง จิตใจก็แจ่มใส น้ำหนักก็ลดด้วย

> > เขียนออกมาได้หลักๆ แค่ 3 อย่าง แต่มีรายละเอียดมากมาย และนั่นมันคือชีวิตของเรา ชีวิตถ้าอยู่ไปแล้วไม่มีความสุข พยายามอยู่ แต่ก็ไม่สำเร็จ 6 เดือนแรกที่ย้ายมาอยู่ก็ตัดสินใจว่าจะกลับ แต่เพื่อแฟนตอนนั้น เค้าว่าให้เราพยายามอีก ตอนนี้ 5 ปี ก็คิดว่าเพื่อลูก ถามว่าเพื่อตัวเองจะเป็นคนเห็นแก่ตัวไหม ใจดำหรือเปล่า เคยเป็นสาวออฟฟิศ ได้แต่งตัวสวยขับรถไปทำงานตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป เดี๋ยวนี้ไม่แต่งตัวน้ำหนักเพิ่ม 13 กก. ไม่ใช่เพราะมีลูก 10 กก.แรก ภายใน 1ปี หน้าตาง่วงเหงา เหนื่อยง่าย ไม่มีชีวิตชีวา มีเวลาว่างเยอะ แต่ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น ไม่ใช่ขี้เกียจนะ นอนมากก็ปวดเนื้อปวดตัว ร้องไห้บ่อยมาเมื่อย้ายมาอยู่ที่นี่ ไม่รู้มันเศร้าอะไรนักหนา ธุรกิจที่พี่ทำก็ไปอย่างช้ามาก ไม่รู้จะออกหัวหรือก้อย

ตอบ: พรเลิกคิดอยู่เยอรมนีมาได้2-3ปีแล้ว คิดจะกลับบ้านเมืองไทยอย่างเดียว ติดที่สามีมีลูกติดอีก 2คน จะย้ายไปไหนก็ลำบาก พรเลยทนๆ จนปีนี้เขาย่าง 21 กับ ย่าง 18 พรคิดจะปล่อยแล้ว คือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพรจะกลับเมืองไทย พรช่วยสามีดูแลลูกเลี้ยงมา 6ปีเต็ม จนเมียเก่าไม่กล้ามาแย่งลูกกลับคืนแล้ว เพราะตอนนี้เด็กโตมากแล้ว ตอนนี้พรจะถือว่าหมดภาระของสามีแล้วพรจะกลับไปอยู่ไทยซะที หากจะกลับหรือไม่ก็เรื่องของเขา พรจะวางแผนงานของพรให้มั่นคงที่สุดก่อนกลับ แบบว่าให้สามีออกงานมานั่นกินนอนกินที่ไทยได้เลย ตอนนี้เขาอายุ 55 ปี จะให้เกษียณก่อน เงินคงไม่ได้มาก เพราะต้องถูกหักออก และแบ่งบางส่วนให้เมียเก่าเขาด้วย อีกอย่างเงินที่เหลือต้องส่งลูก 2คนเรียน แกคงไม่เหลือเงินอะไรที่จะใช้จ่ายที่เมืองไทยกับพร แต่ก็ช่างมันนะ อีก 6ปีลูกเขาเรียนจบ ก็ไม่ต้องส่งแล้ว ช่วงนี้คงต้องลำบาก ประหยัดกันหน่อยที่เมืองไทย พรก็คิดทำโน่นทำนี่หลายอย่าง เอาแบบไม่เสี่ยง พาสามีมาอยู่ไทยจะไม่ให้เขาลำบากเลยค่ะ พรคาดว่าจะย้ายมาอยู่ไทยเต็มตัวคงอีก 2ปี พรกำลังวางแผนทำอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า เอาไว้กินระยะยาว แต่ตอนนี้ก้ต้องเตรียมเก็บเงินให้มากที่สุด กลับไปเยอรมนีต้นเดือนมกราคา ปีหน้า พรจะเริ่มออกไปทำงานนอกบ้านแล้วค่ะ ต้องหาเงินให้มากที่สุดก่อนกลับไปอยุ่ไทยถาวร สร้างอพาร์ตเม้นท์เสร็จเรียบร้อย ค่อยย้ายกลับ สามีก็เห็นดีด้วยที่จะลงทุนทำแบบนี้ สามีพรชอบเมืองไทยมาก ยังไงแกต้องย้ายตามพรแน่ๆ เพราะรักพรและน้องเพียวมาก แต่หากแกจะห่วงลูกชายแกที่บรรลุนิติภาวะแล้วทั้ง 2 อยากจะเป็นขี้ข้าลูกที่เยอรมนีก็ไม่ว่าไร ก็ปล่อยแกไปตามกรรมที่แกอยากได้รับ แต่พรคงไม่เอาด้วยหรอก ถือว่าใช้หนี้กรรม ต่อกันหมดแล้วค่ะ ทางใครทางมั้น อยากมีทางของตัวเองบ้าง จริงๆน่ะ หากไม่ได้อย่างใจ พรกล้าที่จะหย่า ชีวิตของเราแต่เดินตามเขา เราไม่มีความสุข ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ พรขอมีน้องเพียวที่อยู่ด้วยก็พอแล้ว แต่พรรู้นะหากพรไม่อยู่สามีพรคงฆ่าตัวตายแน่ ยังไงแกต้องตามพรมาไทยแน่นอน พรเสียเวลาให้สามีมามากแล้ว ตอนนี้จะว่าเห็นแก่ตัวก็ไม่สนแล้วค่ะ ที่สำคัญนะพี่เจี๊ยบ จะกลับมาอยู่ไทย ต้องแน่ใจว่าตัวเองมั่นคงพอที่จะให้ลูกและสามีไม่ลำบาก พรไม่ได้ยุนะพี่ ชีวิตใครชีวิตมันคิดเอาเอง บอกได้แค่ คนเราอยู่ไม่นานเดี๋ยวก็ตาย จะมาทนทรมาน หรือหาความทุกข์ใส่ตัวเองทำไม มีทางไปก็ไป อะไรที่ทำให้ชีวิตมีความสุขก็ต้องคว้าเอาไว้ แต่คิดดีๆ ว่างแผนให้รอบคอบนะพี่

ไว้อาลัยพี่ชายที่แสนดี

ปีนี้ 2549เป็นปีที่มีเรื่องเศร้าที่สุดเกิดกับครอบครัวของเรา เป็นความเศร้าอย่างมากสำหรับน้องสาวคนนี้ และทุกๆคนในครอบครัว ในฐานะลูกชายคนรอง น้องชายคนรอง พี่ชายคนรอง สามี พ่อ ลุง และอา ที่พวกเรารักมากจากไปเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2549 ตอนที่เขียนนี้มีน้ำตาคลอเบ้าอีกแล้ว ทุกวันนี้เมื่ออยู่คนเดียวเงียบๆ ก็จะคิดถึงพี่ชายคนนี้ตลอด ใบหน้าตอนที่ป่วยหนักลอยในความคิด ควาวรู้สึกที่ผูกพันธ์ ความช่วยเหลือ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ที่เปี๊ยกมีให้ตั้งแต่สมัยเด็กจนกระทั่งเป็นผู้ใหญ่ ไม่เคยลืม โชคดีที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดก่อนเปี๊ยกจากไปเมื่อไปเยี่ยมบ้านเมืองไทยปีนี้ การจากไปของญาติคนอื่นๆ ไม่สามารถทำให้เกิดความเสียใจและเศร้าได้เท่านี้ พึ่งเข้าใจความเศร้าของการจากไปของคนที่รัก ความเสียใจที่ทำไมถึงจากไปรวดเร็ว เปี๊ยกเพิ่งอายุ 45 ปีเอง และเป็นคนใจบุญสุนทาน ความรู้สึกตอนนี้ยังไม่สามารถยอมรับได้ว่าการจากไปของเปี๊ยกเป็นเรื่องจริง แต่ความจริงก็คือเปี๊ยกได้จากไปแล้ว ขอไว้อาลัยพี่ชายที่แสนดี

รูปเก่าของสมาชิกครอบครัว

เป็นรูปเก่าที่เก็บไว้ เจ้าของรูปอาจจะไม่มีด้วยซ้ำ ใครเป็นใครดูเอาเอง

เป็นรูปถ่ายเมื่อปีพ.ศ.2540 ฉลองติดยศพันตำรวจตรีของพี่ชายคนโต

จดหมายจากพลอยและพี่ปลาถึงอาจันทร์

หลานสาวคนโตของครอบครัวกันทา ปีนี้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐ อาจันทร์เป็นกำลังใจ ขอให้โชคดี ส่วนหลานสาวคนรองก็ขอให้เรียนเก่งอย่างนี้ตลอดไป และสอบเข้ามหาลัยของรํฐได้ในอนาคต

จดหมายจากสวยถึงอาจันทร์

ตอนนี้สวยก็รู้แล้วว่าปริญญาโทของอาจันทร์เป็นหมัน และอาจันทร์มีน้องโซเฟียแล้ว

จดหมายจากหลานๆ


อ่านกันเล่นๆ ว่าหลานๆ บ้านนี้น่ารักทุกคน

ลูกหลานของเราเรียนเก่ง

ขอบอกเด็กๆ ที่อยู่ในรูปนี้ เริ่มจาก พี่ปลา พลอย สวย และ ปังปอนด์ มีประวัติสอบได้ที่หนึ่งในชั้นเรียนกันทุกคน โดยเฉพาะพี่ปลา ขอให้ตั้งใจเรียนกันทุกคน น้องโซเฟียท่องกลอน ก.เอ๋ย ก.ไก่ จนถึง ฮ.นกฮูกตาโต ได้แล้ว อีกทั้งจำได้หมดว่าตัวอักษรไทยตัวไหนเรียกว่าอะไร ปีหน้าไปเมืองไทย จะให้น้องโซเฟียแข่งกับน้องงาม น้องโซเฟียร้องเพลงไทยได้ 2 เพลงแล้วนะ ช้าง ๆ ๆ น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า กับ แมงมุมขยุ้มหลังคา

หลานรักข้างบ้าน

ไอ้พลอยกับไอ้สวย จำได้ว่าสมัยที่พวกเธอยังเด็ก และอาจันทร์ยังเป็นสาวแก่อยู่ที่เมืองไทย พวกเธอยิ้มเก่ง และเราก็ถ่ายรูปกัน หลายอาลาบัมมาก แต่ว่าใช้กล้องเก่าสมัยก่อนของอาจันทร์ ยังไม่มีกล้องดิจิตอล ทุกวันอาจันทร์กลับจากทำงาน พวกเธอก็มาหาอาจันทร์ที่บ้าน โดยเฉพาะที่ห้องนอน เราสนุกสนานด้วยกันทุกๆ เรื่อง พวกเธอมันหลานรักข้างบ้าน ก็บ้านเราอยู่ติดกันนี่หน่า
ไอ้สวยหลานรักข้างบ้านอาจันทร์ แต่งชุดนักเรียนเก่าของพี่พลอย แต่งตัวชุดนี้เพื่อไปเที่ยวกับอาจันทร์ที่มหาชัย ยืนถ่ายรูปหน้ารถของอาจันทร์ สถานที่ท่าเรือโกเคี้ยง มหาชัย เรือซีวิครีเฟอร์จอดเทียบท่าอยู่ ไม่แน่ใจว่าปีอะไร คิดว่าปี 2541

Wednesday, October 11, 2006

โซเฟียกับพี่น้อง


โซเฟียกับพี่มะเหมี่ยว ปี 2546 โซเฟียกับพี่พลอย พี่สวย ปังปอนด์ และน้องงาม ปี 2546


โซเฟียกับน้องงาม ปี 2547 โซเฟียกับพี่ปลา ปี 2546

โซเฟียกับพี่เม่น ปี 2547 โซเฟียกับปังปอนด์ ปี 2547

ลูกหลานของเรา

พี่ปลากับปังปอนด์ ปี 2546 ลูกรักพันธุ์พงศ์
พี่พลอย พี่สวย และน้องงาม ปี 2546 ลูกรักสุชาย
พี่เม่น พี่มะเหมี่ยว ปี 2547 ลูกรักชาติชาย และน้องโซเฟีย ลูกสาวคนเดียวของลูกสาวคนเดียว

MR.poollarp kunta

น้องชายคนเล็กของเรา เริ่มทำงานตำแหน่งนิติกร สำนักงานคดีแพ่งธนบุรี ปัจจุบันทำงานเป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และปริญญาโท (กฏหมายอาญา) คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังโสดอยู่ แต่อีกไม่นาน พวกเราคงไม่ต้องร้องเพลง ทำไมน้องไม่แต่งงานแล้ว เนื่องจากเป็นลูกคนเล็ก เพราะฉะนั้นจึงมีลักษณะเฉพาะตัวของลูกคนสุดท้อง

นางวงศ์จันทร์ กันทา อันโตนเซน

ลูกสาวคนเดียว สมัยอยู่เมืองไทย เรียนจบใหม่ๆ เริ่มทำงานด้านนำเข้าและส่งออกเป็นเวลา 6 ปี จากนั้น อีกประมาณปีครี่ง อยู่ฝ่ายต่างประเทศเน้นงานด้านแอลซี เคลียร์สินค้า และเคลมสินค้า และที่สุดท้ายอีก 4 ปี ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายเรือสินค้า ดูแลเอกสารสำคัญในการเดินเรือสินค้าจัดซื้อสินค้า และอะไหล่จากต่างประเทศให้กับเรือสินค้า จบการศึกษาระดับปริญญาตรึ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ศึกษาต่อปริญญาโท ประชากรศึกษา คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เรียนจบคอรสเวิอร์ค แต่งงานย้ายไปอยู่นอร์เวย์ ปีแรกยังทำวิทยานิพนธ์ ปีที่สองตั้งครรภ์ วิทยานิพนธ์เลยเป็นหมันไป แต่เรียนจบหลักสูตรภาษานอร์เวย์ของโรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่ที่เมืองบูด้าแทน เมื่อปี 2547-2548 ทำงานเป็นครูสองภาษาประจำโรงเรียนประถมศึกษา ขณะนี้ศึกษาต่อที่วิทยาลัยบูด้า International Bodø College และทำงานเสริม 12% ที่ไปรษณีย์

Tuesday, October 10, 2006

นายพันธ์พงศ์ กันทา

พี่ชายคนที่ 3 ของเรา เป็นผู้จัดการแล้วนะ อยู่ฝ่ายสินเชื่อ ธนาคารสหกรณ์เพื่อการเกษตร จบการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์ มาหวิยาลัยรามคำแหง เรียน 4 ปีจบ ไม่เคยไปเรียน อาศัยอ่านแล้วไปสอบ จริงๆ แล้วที่ไปเรียนต่อเพราะไม่อยากเป็นจ่าแก่ๆ และตอนแรกไปสอบเข้าจ่าทำไม อยากทำงานเร็ว มีเงินเดือนใช้เร็วนะซี เสียดายปีที่จบ มศ.3 ปีนั้น ไม่มีการจัดสอบแข่งขันเข้าเตรียมทหาร เป็นคนขี่เล่น ใช้เงินประหยัด

นายสุชาย กันทา

พี่ชายคนรองของเรา มีร้านขายของชำ และเป็นประธานชุมชนหมู่บ้านบริหารเงินล้าน ได้รับรางวัลประธานชุมชนดีเด่น จบการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอำนวยศิลป์ธนบุรี ชื่อย่อ อ.ธ. มีความสามารถ real competence เกินวุฒิการศึกษาหลายเท่า ปริญญาเอกชีวิต เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ใจดี มีน้ำใจ สปอร์ต ทำกับข้าวเก่ง อร่อย ใช้ชีวิตโชคโชน บางครั้งทำให้ครอบครัวเสียใจ เพราะพวกเรารักเขาอยากให้ได้แต่สิ่งที่ดี

พันตำรวจโทชาติชาย กันทา

พี่ชายคนโตของเราเป็นนายตำรวจ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และระดับปริญญาโทคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นคนเคร่งขีม พูดน้อย น้องๆ เกรงใจทุกคน

พี่น้อง 5 คนมีใครบ้าง

  1. พันตำรวจโทชาติชาย กันทา เกิดปีกุน อายุ 47
  2. นายสุชาย กันทา เกิดปีฉลู อายุ 45
  3. นายพันธุ์พงศ์ กันทา เกิดปีมะโรง อายุ 42
  4. นางวงศ์จันทร์ กันทา อันโตนเซน เกิดปีมะเมีย อายุ 40
  5. นายพูลลาภกันทา เกิดปีระกา อายุ 37

พ่อและแม่ของเรา

  1. พ่อ นายชุ่ม กันทา เกิดปีมะโรง อายุ 78 ปี
  2. แม่ นางบุญช่วย กันทา เกิดปีชวด อายุ 70 ปี

รวมญาติฉลองวันเกิดน้องโซเฟีย 2 ขวบ ปี 2547




เมื่อปี 2547 เป็นปีที่เราพี่น้องทั้ง 5 พร้อมทั้งพ่อและแม่มารวมกันอย่างพร้อมเพียง โชคดีปีนั้น น้องโซเฟียไปเยี่ยมเมืองไทยตรงกับวันเกิดของเธอพอดีเลยจึงได้รวมญาติกันอย่างพร้อมเพียง ปรกติเราก็รวมญาติกันอยู่ แต่อาจไม่ครบเท่าวันนี้