Sunday, August 22, 2010

มุมมองที่ต่างไปจากเดิม

ปีนี้กลับบ้านเมืองไทย 8 สัปดาห์ เดินทางวันแรกของการปิดเทอมหน้าร้อนของโซเฟีย กลับนอร์เวย์ก็ได้หยุดอีกแค่สองวันคือวันเสาร์อาทิตย์ วันจันทร์ก็ต้องไปโรงเรียนแล้ว เรียกว่าใช้วันหยุดฤดูร้อนที่เมืองไทยเต็มๆ วันเวลาผ่านไปรวดเร็วปีนี้ก็เข้าปีที่ 10 ของการพักอาศัยอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ยิ่งอยู่นานยิ่งชินกับการใช้ชีวิตที่นี่มากยิ่งขึ้น ปีนี้กลับเมืองไทยอยู่นานหน่อยแต่นานไม่มากพอให้ชินกับสภาพการใช้ชีวิตที่เมืองไทย อะไรหลายอย่างที่เคยคิดก็ไม่เหมือนเดิม ไม่รู้เพราะอะไร เคยเบื่อต้องทำกับข้าวทุกวัน ก็กลายเป็นว่าน่าเบื่อเหมือนกันที่ออกไปกินข้าวข้างนอกทุกวัน เคยเซ็งกับการขับรถที่ต้องระวังกับถนนลื่นเพราะหิมะน้ำแข็ง แต่เซ็งมากกว่ากับการที่ขับรถบนถนนที่มีรถลาเยอะแยะหลายประเภท และต้องระวังกับพฤติกรรมการขับรถที่ไม่สามารถคาดเดาได้ กดดันกับลักษณะของคนที่เย็นชาไม่ร่าเริงมีความเป็นส่วนตัวสูง แต่สุดจะทนไหวกับลักษณะของคนที่ก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคลถึงแม้จะแฝงด้วยอัธยาศัยที่อยากเป็นมิตรแต่มันเกินงามเกินพอดี น่าจะมีอะไรอีกหลายอย่างนะ แต่ที่เขียนมทั้งสามอย่างนี่น่าจะบอกถึงชีวิตความเป็นอยู่หรือไลฟสไตล์ที่ต่างกัน

เริ่มมีความคิดและรู้สึกว่าอยู่นอร์เวย์ก็สุขสบายดี ถึงแม้จะไม่ค่อยสนุกสนาน แต่เข้าวัยทองแล้วอยู่ที่ไหนก็คงไม่เน้นเรื่องของความสนุกเป็นหลักแล้ว เน้นสงบสุขร่มเย็นไม่ต้องกังวล ไม่เครียดเป็นหลักมากกว่า จดบันทึกไว้เป็นหลักฐานย้ำเตือนตัวเองว่าคิดอะไรอยู่กับประเทศที่สองที่อยู่อาศัยเป็นหลักณ.ตอนนี้ คิดว่าถ้าใครมาอยู่ต่างแดนใหม่ๆ แล้วมันร้อนรนทนไม่ไหว ถ้าได้อ่านความคิดที่เปลี่ยนไปของคนประสบการณ์ร่วมอย่างดิฉันคงได้คิดว่า คนเรามีการปรับเปลี่ยนความคิด มุมมองที่ต่างไปจากเดิมจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เหมือนกัน แต่ก็คงไม่ได้เร็วดังใจฝัน ดิฉันปรับได้เมื่อเข้าปีที่สิบ หวังว่าบางคนอาจทำใจและเข้าใจได้เร็วกว่าดิฉัน ขอให้โชคดีถ้วนหน้านะคะ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนสนใจในการดูแลสุขภาพ ขอนำภาพเครื่องทำน้ำเต้าหู้ที่ซื้อจากเมืองไทยมาปีนี้เป็นภาพประกอบค่ะ