Thursday, February 27, 2020

แล้วมันก็จะผ่านไป

บอกตัวเองสิ "แล้วมันก็จะผ่านไป" เมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็งก็ต้องเข้ารับการรักษา ผ่านขั้นตอนต่างๆ มากมายตามขบวนการทางการแพทย์ สุขภาพร่างกายจิตใจเมื่อได้รับยา ยาบางตัวเมื่อกินเข้าไปทำให้มีอาการไฮเปอร์ได้ ทั้งๆที่ร่างกายป่วยและอ่อนแอมาก ประสบการณ์ตรงที่ได้รับในฐานะผู้ป่วย เวลาที่ต้องเข้าห้องน้ำไปฉี่ แล้วต้องกดเรียกพยาบาลให้พาเข้าห้องน้ำ เพราะต้องช่วยลากเสาสแตนเลสที่ไว้แขวนถุงคีโม (น้ำเกลือ น้ำเลือด อาหาร) ซึ่งเป็นเวลาตอนกลางคืน จากหัวค่ำ ไปจนดึก ตลอดถึงเช้ามืด เข้าห้องน้ำทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ช่างเป็นช่วงที่ร่างกายอ่อนแอและเพลียมาก ภายหลังเมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้น และสามารถเข้าห้องน้ำได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งใครมาช่วย โอ้โหมันสุดยอดมากกับการทำได้ด้วยตัวเอง ประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่อาบน้ำแล้วต้องมีคนช่วยอาบให้ นึกได้แต่ว่ามันเป็นไปได้จริงๆ ที่ต้องให้พยาบาลช่วยอาบน้ำให้ เพราะทำเองไม่ไหวจริงๆ ไม่เคยนึกว่าจะมาถึงจุดนี้ ผ่านมาแล้วจากจากกลางเดือนตุลาคม 2562 จนถึงเกือบปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2563 รวม 7 คีโมเทราพี กับ 2 ยกกับการล้างพิษ ยกละ 3วัน3คืน ที่ต้องเข้าห้องน้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะตอนกลางคืนเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าตอนกลางวัน โชคดีที่สามารถเข้าห้องน้ำเองได้โดยไม่ต้องเรียกให้พยาบาลช่วยเหลือ แต่อดหลับอดนอนเพลียมากกก ผลจากการ PET SCANING เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ออกวันนี้ "ไม่พบเซลล์มะเร็งในเนื้่อเยื่อแล้ว" ตอนนี้พูดได้ว่า "มันได้ผ่านไปแล้ว" หวังแต่เพียงว่าอย่ากลับมาอีกนะ ขอเลี้ยงลูกวัยรุ่นต่อให้โตอีกสักหน่อย ให้ปีกกล้าขาแข็ง เรียนจบมีงานทำ รักนะจุ๊บๆ น้องโซเฟีย