Tuesday, December 10, 2013

รักเธอประเทศไทย

ปีนี้ไปอยู่เมืองไทย 3เดือนกว่า 12 พค ถึง 16 สค ไม่ค่อยได้ใช้เวลากับคอมฯ เลย ตื่นแต่เช้า กวาดบ้านปัดฝุ่น หมดเวลาแล้ว กลับมานอร์เวย์ได้เกือบจะ 4เดือนแล้วก็ ไม่ได้เข้ามาอัฟเดท บล็อกนี้เลย ว่าจะมาบันทึกเรื่องเดินทางไปเวียดนามเมื่อ 15-22 กค ก็ไม่ได้ทำ จนลืมเลือนไปหมดแล้ว แต่ยังไงต้องมาเขียนไว้ในโพสท์ต่อไป วันนี้ติดไว้ก่อน อ้อพูดถึงเรื่องเที่ยวเมื่อ 28 ตค จองตั๋วไปบาร์เซโลน่าแล้วนะ  ปีหน้า 24 พค ค้างออสโล 1คืน แล้ว 25-30 พคไปลุยสเปนกัน จริงๆ คงไม่ได้ลงลุยอะไรหรอก ชอบแบบสบายกาย สบายใจ สบายกระเป๋า จองโรงแรมที่ออสโลไว้แล้ว แต่ที่บาร์เซโลน่าว่าจะลองแบบ last minute เผื่อได้แบบคุณภาพ 5 ดาว ราคา 2 ดาว โรงแรมเยอะเหลือเกิน แบบ self catering ก็กลาดเกลื่อน ดูคร่าวๆ ว่าจะไปเที่ยวไหนบ้างไว้แล้ว แต่พอใกล้ๆเวลาเดินทางจริง คงต้องดูกันใหม่เ เพราะว่าแก่ จำอะไรไม่ค่อยได้ แต่มีอะไรจะบอก

อยากบอกว่ารักประเทศไทยที่สุด ทำยังไงให้เหตุการ์ณคลี่คลายไปในทางที่ดี ช่วยกันแก้ปัญหาให้ถูกจุด ภาพรวมที่เห็นตอนนี้ก็คือคนไทยทะเลาะกัน แบ่งแยก ขาดความสมัคคี.....อยากเห็นความสามัคคีในหมู่คนไทย  อยากเห็นประเทศไทยมีผู้นำที่ดีมีความสามารถนำพาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรือง บริหารจัดการ นโยบาย ทำเพื่อคนไทยทุกคนกระจายอย่างเท่าเทียมยุติธรรม....

หักมุขไหมเนี๊ยะคนละเรื่องเดียวกัน ไม่นะขอบอก...รักเธอประเทศไทย ถ้ามีโอกาสจะกลับไปอยู่ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


รูปภาพประกอบจาก www.kapook.com

Sunday, May 05, 2013

อยากเก็บเอาไว้ ขอบคุณพี่ปม และเพื่อนเอ๋

วันนี้ 5 พค 2556 ได้รับลิงค์จากเพื่อนเอ๋ ว่าพี่ปม (Sood Raktham) ช่วยรีวิวที่พัก "บ้านรื่นรมย์" ชะอำ ให้ ปรากฏทำไปเกือบเสร็จแล้ว กระทู้ถูกลบ ทั้งนี้อาจเกิดจากความตั้งใจดีของพี่ปมที่อำนวยความสะดวกสุดๆ ให้กับเพื่อนๆ และผู้สนใจ เลยแปะลิงค์เว็บไซท์ไว้ให้  เป็นจุดที่เข้าใจว่าทำไมกระทู้โดดแบน ข้อสังเกตุอีกอย่างหนึ่งคือรูปภาพที่พี่ปมอัฟโหลดไว้ที่เว็บนั้นสวยมาก สวยแบบที่โรงแรมหรูเขาให้ช่างภาพมืออาชีพทำให้ โทษฐานรูปภาพงามเกินอีกกระทงนะพี่ปม:) ล้อเล่น

ด้วยความที่พี่ปมกับเพื่อนเอ๋และลูกสาวไปพักที่คอนโดบ้านรื่นรมย์แล้วชอบอกชอบใจที่พักมาก เจตนาดีอยากบอกต่อ ประมาณ "บันทึกนักเดินทาง" ผู้ที่มีความสามารถระดับโปรในการถ่ายภาพ เลยเน้นถ่ายรูปชัดๆ หลายๆ มุม พร้อมคำบรรยายสั้นๆ ประกอบ ดิฉันเสียดายมาก เลยก๊อปมาแปะไว้ที่บล็อกนี้ก่อน รูปภาพดาวโหลดเก็บไว้ได้หมด แต่คำบรรยายภาษาที่พี่ปมเขียนไว้ ถ้าหายไปไม่ได้ออนแอร์ น่าเสียดาย อยากเก็บเอาไว้ เพราะเป็นความตั้งใจดีที่พี่ปมเขาทำสนับสนุนน้อง และอยากให้เพื่อนๆ  ผู้ที่สนใจที่อยากเปลี่ยนรูปแบบที่พักเป็นแบบสบายๆ ที่แตกต่างจากการพักโรงแรม (ก๊อปมา 99เปอร์เซ็นต์นะคะ)

[CR]รีวิวที่พัก "บ้านรื่นรมย์" คอนโดติดทะเล สำหรับครอบครัวพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปพักบ้านเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งเขาได้แต่งงานและย้ายไปอยู่นอร์เวย์ เพื่อนผมมีคอนโดติดทะเลซื้อเอาไว้ที่ชะอำ ซึ่งเขากะจะไว้หนีหนาวมา ได้เปิดให้เช่าในระหว่างที่ครอบครัวยังไม่ได้ย้ายมาอยู่ เป็นการพักในรูปแบบที่ต่างจากการพักตามโรงแรม แบบสบาย ๆ นำอาหารขึ้นไปทานได้ถึงห้องพัก ประกอบอาหารก็ได้ ราคามิตรภาพ ไม่แพงอย่างที่คิดและได้เห็นภาพห้องนะครับ เชิญติดต่อกับเจ้าของได้เลยครับ ผมเพียงแค่ช่วยเขาประชาสัมพันธ์ บอกกล่าวข้อความให้ทราบ เพราะผมก็จ่ายเงินในราคาพิเศษ ซึ่งเพื่อนคิดให้ทั้งที่เป็นช่วงสงกรานต์ครับ
เจ้าของห้องเพื่อนรุ่นน้องผม ชื่อ วงศ์จันทร์ อันโตนเซน ติดต่อดูห้องพัก และ ช่วงเวลาที่ว่างได้จากลิงค์ข้างล่างได้เลยครับ
http://www.cha-am.iowners.net/home.html
แผนที่เดินทางไปที่พัก

หน้าตาคอนโด หากมองจากที่พัก สบายใจเรื่องการจอดรถ มียามเฝ้าให้ตลอด 24 ชั่วโมง และอัธยาศัยดีมาก ช่วยเหลือเราขนของ

ภายในอาณาเขตที่พัก มีที่จอดรถรองรับได้มาก และปลอดภัยเนื่องจากมียามรักษาการณ์ ตลอดครับ ตึกนี้มี 23 ชั้น 2 ลิฟต์

ห้องพักค่อนข้างใหญ่ มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น มีโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่ และส่วน   ประกอบอาหารด้วย : ภายในห้องรับแขก 

ห้องรับแขก อีกมุมครับ 

มุมทานอาหารเล็ก ๆ
 
อีกมุมนึงของโต๊ะทานอาหาร ข้าง ๆ ซ้ายมือจะเป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่
 
จากห้องรับแขก ระเบียงด้านหน้าห้องพัก มีความยาวเท่ากับห้องพักเลยครับ มีเก้าอี้พลาสติกให้นั่งรับลมหน้าระเบียง 4 ตัว

มองไปทางขวามือจะเห็นวิวทะเล แต่ก่อนจะถึงทะเล ถึงราวตากผ้าเล็ก ๆ ก่อน จะซักผ้า ตากผ้า อย่าลืมหนีบไว้นะครับ
 
ภาพนี้ถ่ายจากระเบียงบริเวณห้องนอนใหญ่ มองออกไปทะเล ด้านล่างจะเห็นสระว่ายน้ำ มีส่วนของเด็กเล็กแยกต่างหากออกไป

 มุมมองจากระเบียงเดิม หันหลังให้ทะเลครับ
 

ดูวิวจากระเบียงแล้ว ลองมาดูข้างในกันบ้าง เริ่มที่ห้องนอนเล็กก่อนเลยครับ เป็นเตียง twin ขนาดเล็ก
 
เปิดประตูห้องเข้ามา

เดินเข้ามาจนสุดและถ่ายออกไป ห้องนอนนี้มีขนาดเล็ก แต่ 2 คน นอนได้สบาย ๆ ครับ
 
  
ห้องนอนนี้ รุ่นน้องผมคงแต่งไว้ให้ลูกสาวแน่เลย ให้โทนสีหวานอ่อนโยนมาก

 ดูห้องนอนเล็กแล้วก็มาดูห้องนอนใหญ่หรือ master bed room กันบ้างครับ ทางเข้าห้องนอนใหญ่

ห้องนอนให้สีเขียวอ่อน มองจากเตียงนอนออกไปจะเห็นวิวของบ้านทรงไทย และทิวยอดมะพร้าว



 เดินเข้าไปอีกนิด หากมองจากเตียงนอน ก็จะเห็นทะเล



มุมแต่งตัวและทางเข้าห้องน้ำที่อยู่ในตัวห้องนอนใหญ่ครับ


ตู้ข้าง ๆ นี้ สำหรับเก็บเครื่องนอน และผ้าเช็ดตัว เนื่องจากผมพักแค่ 2 คืน เลยไม่ได้เปลี่ยน หากพักหลายคืนจะเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว ติดต่อส่วนกลางได้เลยครับ มันจะมีค่าใช้จ่ายในการซักผ้า (เอ..เรียกถูกไหมไม่แน่ใจ) ที่นี่เขาบริการดีมาก ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้พักตลอด


 ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ครับ

อีกมุมนึงครับ ภายในห้องน้ำ ถ่ายภาพจากด้านในออกมา
 

Saturday, April 06, 2013

และแล้วก็ได้กินพิซซ่าที่อิตาลี

เรากินพิซซ่า 3มื้อ 3ร้าน ใน 7วันของการเดินทาง มื้อเย็นแรกของวันแรกคือวันจันทร์แน่นอนต้องขอชิมพิซซ่า ถ่ายรูปแทบไม่ทัน เพราะตัวกินพิซซ่ามาด้วย ร้านอยู่ใกล้ๆ โรงแรม กุ๊กกับคนเสริฟ หน้าตาเอเชีย คือจริงๆ ก็คนเอเชียมาจากไหนไม่รู้ แต่ฟังเขาพูดเล่าเรื่องต่างๆ กับลูกค้าโต๊ะข้างๆ เข้าใจว่า มาจากฮองกงนะ พูดภาษาอิตาลีปนกับภาษาอังกฤษนิดหน่อย เข้าใจหมดเลย เก่งจริงพวกเรา พิซซ่าอร่อยแต่อยากให้คนอิตาลีทำให้กินอ่ะ รอมื้อต่อไปว่าจะได้กุ๊กอิตาลีหรือเปล่า มื้อต่อไปเป็นมื้อกลางวันของวันพุธซึ่งเป็นมื้อกลางของการเดินทางเที่ยวนี้ กินกันที่เวเนเซีย ไม่เห็นกุ๊กนะ พิซซ่าเป็นแบบทำเตรียมไว้เสร็จแล้ว ตัดเป็นชิ้นๆ แล้วด้วย พอสั่งเขาก็เอาไปอุ่นแล้วเสริฟ คนขายน่าจะเป็นเจ้าของร้าน เป็นคนอิตาลี หน้าตาท่าทางการต้อนรับแขก แกอิตาลี้อิตาลี ลูกค้าคนอังกฤษจะขอสั่งให้ทำใหม่ตามเมนู แกบอกไม่มี แล้วเอานิ้วชี้ที่ลูกตาของแก แล้วบอกให้แขกดูตามว่ามีเฉพาะในตู้โชว์เท่านั้น ดูเหมือนไม่ค่อยสุภาพ แต่คิดอีกที่คงเป็นไสตล์ของชาติเขา ดูร้อนแรงแบบตรงๆ ดี น้องสาวแกที่ช่วยขายช่วยเสริฟ บอกแกเป็นภาษาอิตาลีให้ "รีแล็กซ์" ตอนแรกก็ไม่รู้หรอก แกแปลให้ฟัง แกพูดเป็นภาษาอังกฤษกับดิฉันบอกว่า "My father said "relax" "relax"..." แล้วแกก็ชี้ไปที่น้องสาวแก แล้วแกก็ถามเป็นภาษอิตาลีอีกครั้งว่า ... ฟังไม่ออก รู้อีกที่ แกถามน้องสาวแกว่า "น้องสาวภาษอังกฤษ พูดยังไง..." ตกลงไม่ใช่ My father แต่เป็น My sister แทน อยู่เมืองท่องเทียวขนาดนี้ น้องสาวของฉัน ยังได้ My father... แต่แกใจดีนะ ดิฉันไม่มีเงินสด ต้องใช้การ์ด เงื่อนไขคือใช้การ์ดได้แต่ต้องสั่งอย่างน้อย 20ยูโร กินไปก็ไม่รู้ราคาเท่าไร พอจ่ายตังค์ 19.50 ยูโร แกก็จะขอเงินสด บอกไม่มี แกถามอีก ไม่มี ยืนยันสุดๆ ว่าไม่มีิเงินสดจริงๆ ยังไงกินเพิ่มอีกก็ได้นะ ให้เกิน 20ยูโร แกเลย หยวน หยวน ปิ๊ด จ่าย ไปดีกว่า เดี๋ยวถูกด่าเป็นภาษาอิตาลี มื้อต่อไปเป็นวันอาทิตย์มื้อเย็นสุดท้ายที่มิลาน มื้้อนี้แม่กับลูกอยากกินอาหารเอชียอีกคือเมื่อวันอังคารกินอาหารจีน ส่วนวันศุกร์กินอาหารญี่ปุ่น โซเฟียติดใจอาหารญี่ปุ่น ส่วนแม่ว่าอาหารจีนก็ดีเหมือนกันนะลูก แต่ให้พ่อเลือก พ่อว่าน่าจะกินพิซซ่าอีกมื้อก่อนกลับ ได้ๆ ไม่มีปัญหา โซเีฟียกับแม่เห็นพร้องต้องกัน..."ตามใจป่าป๋า" พ่อถามที่โรงแรมให้แนะนะร้านพิซซ่า เน้นว่าขอแบบดั้งเดิม เตาถ่าน กุ๊กคนอิตาลี รีเซฟชั่นหนุ่มใหญ่ยืนยันมั่นใจบอกว่าไม่น่าใช่คนจีน พอเราไปที่ร้าน ปรากฎว่า เตาถ่าน แต่กุ๊กคนจีน สาวเสริฟจีน แคชเชียร์จีน ส่วนลูกค้าอิตาลีทั้งน๊าน เรื่องสนนราคาพิซซ่าที่นี่ ร้านแรกว่าไม่แพง 10ยูโรต่อ1ถาด ร้านที่สองไม่รู้ราคาแน่ชัด ร้านสุดท้ายถูกกว่า 7ยูโรต่อถาด ร้านแรกเนื้อแป้งเยอะกินอิ่ม แบบแทบไม่หมด ร้านที่สองเนื้อแป้งแบบขนมปังกรอบ ร้านที่สามดูตัวอย่างจากโต๊ะของลูกค้าที่กำลังกินกันอยู่ ดูแป้งหนา เลยสั่งแค่ 2ถาดก่อน กลัวกินไม่หมด แต่กินจริงๆ เนื้่อแป้งไม่เยอะนะ ต้องสั่งเพิ่มอีกถาด เพราะยังไม่อิ่มแบบส่ะใจ ทั้ง 3ร้าน ไม่มีซอสมะเขือเทศให้ เข้าใจว่าที่นี่เขากินพิซซ่าแบบไม่ต้องใส่ซอสมะเขือเทศ รสชาติอร่อยทั้ง 3ร้าน แต่ให้โหวดร้านไหนอร่อยสุด คงต้องยกให้ร้านสุดท้ายจ้า (ตามรูปที่ 1 และ 2 ถ่ายโดยป่าป๊า)ต้องขอบอกว่า "และแล้วก็ได้กินพิซซ่าที่อิตาลี"

Friday, March 22, 2013

เรื่องเที่ยวๆ ของเราครอบครัวเล็ก

เมื่อต้นเดือนกุมภาฯ คิดจะเข้ามาอัฟเดทบล็อก เพราะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทย แต่ก็ไม่ได้ทำอย่างที่คิด วันนี้เข้ามาบันทึกข้อมูลเก็บไว้เป็นเรื่องเที่ยวๆ ของเราครอบครัวเล็ก ปีนี้ดิฉันจะกลับไปร้อนอยู่เมืองไทยเกิน 3เดือน ส่วนสมาชิกในครอบครัวเล็กจะตามมาอยู่ด้วยตอนปิดเทอมหน้าร้อน 2เดือนเต็ม เพื่อไม่ให้เบื่อและถือโอกาสเที่ยวโซนเอเชีย หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินกลับไทย สองวันต่อมาก็ได้ตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพฯ-โฮจิมินห์ซิตี้ 7วัน เดินทางกลางเดือนกรกฎาคม เรียกว่าจองจ่ายกันล่วงหน้าอีกแล้วค่ะท่าน 4เดือนกว่าๆ ก่อนเดินทางจริง และเพื่อความพร้อมสรรพก็ตามมาด้วยการจองโรงแรม สรุปได้ที่ 3ดาวครึ่ง เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ เพราะว่าเราไม่สนใจสระว่ายน้ำ หรือห้องออกกำลังกายอุปกรณ์ครบครันในโรงแรม คืีอคิดว่าคงไม่ได้ใช้บริการในส่วนนี้ เลยเลือกที่จะจ่ายสำหรับห้องนอนขนาดใหญ่ 50ตรม. 1เตียงดับเบิ้ล 1เตียงเดี่ยว นอนสบายทั้งสามคนพ่อแม่ลูก ประเภทห้องบิ้วซีเนสเดอลุกซ์ซึ่งอยู่ชั้นสูงๆ ซิตี้วิว อาหารเช้าหลากหลาย ดีกว่าจ่ายราคาเดียวกันให้กับห้องเล็กๆ ในโรงแรมที่มีจำนวนดาวมากกว่า ไลฟ์สไตล์คือกินกับนอนเรื่องใหญ่ ออกกำลังกายไม่ต้อง เพราะต้องเก็บแรงไปตะเวนเที่ยวกับทัวร์รายวัน กะไว้วันเว้นวัน แล้วก็พักผ่อนโดยขอใช้บริการนวดและสปาของชาวเวียดนาม... คนมีเงินน้อยแต่อยากเที่ยว ก็ต้องวางแผนล่วงหน้านานหน่อย เลือกซื้อตั๋วตอนโปรโมชั่น โรงแรมลดราคา เงื่อนไขพิเศษ จ่ายแล้วขอเงินคืนไม่ได้ อะไรประมาณนี้ ไปเที่ยวเวียดนามครั้งนี้ก็จ่ายไปน้อยกว่าราคาครึ่งหนึ่งของราคาเต็ม เช่นเดียวกับราคาที่จองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมไปเทียวมมิลาน

และแล้วอีก สองวันกว่าๆ ก็จะได้เดินทางไปมิลาน-เวนีส ประเทศอิตาลี เวลาผ่านไปไวจริงๆ หรือว่าช้าหนอ จองจ่ายล่วงหน้า 7เดือนสำหรับทริปนี้ คงได้ถ่ายรูปเยอะถ้าไม่ขี้เกียจ ดูที่เที่ยวที่กินเตรียมไว้แล้ว ส่วนตั๋วรถบัสไปกลับสนามบินไโรงแรม ตั๋วรถไฟไปกลับมิลาน-เวนีส ก็ซื้อไว้พร้อม เหลือจัดกระเป๋าอย่างเดียว จะพยามเก็บรูปมาฝากนะบล็อกจ๋า... ลิงค์รูปภาพประกอบ