Thursday, October 25, 2012

เมื่อลูกสาวคนเดียวสุดที่รัก "พูดไทย"

กลับจากเมืองไทยปีนี้ประมาณกลางเดือนสิงหาคม (18/8/2555)อยากเขียนอะไรเยอะแยะเพื่อเก็บไว้เป็นบันทึกความทรงจำ แต่ก็ไม่ได้เขียนสักที เวลาผ่านมาได้ 2เดือนกว่าถึงจะได้มาเริ่มเขียนวันนี้ ก็เลยไม่ได้อารมณ์สุดๆ แบบตอนนั้นแล้ว แต่ก็จะพยายามนึกและบีบมันออกมา เริ่มด้วยความดีใจสุดล้นเหมือนคนถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลใหญ่ เมื่อลูกสาวคนเดียวสุดที่รัก "พูดไทย" แบบไม่เฉพาะกับแม่เหมือนที่เคย แต่เริ่มพูดต่อหน้าคนอื่น พูดแบบมั่นใจ พูดแบบที่ต้องการจะสื่อกับผู้คนรอบข้าง "แม่หนูหิว" ตาชุ่มซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ หัวเราะเสียงดัง พร้อมพูดว่า "เฮ้ยมันพูดไทยชัดนี่หว่า" ตาชุ่มยิ้มไม่หุบ "แม่หนูเหงื่อแตกอยากกลับบ้าน" แม่ตอบ "อะไรลูกพึ่งมาถึงเอง" "แม่หนูอยากไปห้างสรรพสินค้า" แม่ถาม "ไปทำอะไรลูก" "หนูอยากกินเป็ดเเอ็มโค" และอีกหลายประโยคที่พรั่งพรูออกจากปากของลูก "แม่ร้อนฉิบเป๋ง เปิดแอร์ได้ไหม" "แม่อยากกินต้มยำไก่" "แม่หนูชอบเนื้อทอด" "แม่หนูง่วงนอน" "แม่หนูขี้เกียจ" "แม่เหนื่อยไหม" "แม่รอแป๊บนึง" ฯลฯ สาเหตุที่ทำให้น้องโซเฟียพูดไทย จากการสอบถามลูกโดยตรง "ทำไมโซเฟียพูดไทยเยอะขนาดนี้เนี้ยะ" และคำตอบที่ได้ "หนูไม่อยากไปโรงเรียน" ต้องขอขอบคุณโรงเรียนแย้มสะอาด หัวหิน ที่ให้โอกาสโซเฟียทดลองเรียน 1วันเต็ม แล้วทำให้อาการอยากพูดไทยของโซเฟียกำเริบ ใครที่มีลูกครึ่งแล้วไม่ยอมพูดไทย จะเอาเคล็ดลับนี้ไปใช้ก็ได้นะคะ อาจได้ผลเหมือนกัน ถ้าเอาเป็นแบบวิเคราะห์และสังเคราะห์แล้ว คิดว่าน่าจะมีปัจจัยอื่นๆ อึกที่ทำให้น้องโซเฟียพูดไทย ก็เพราะเราอยู่พักผ่อนที่ประเทศไทยนานขึ้น อยู่ติดบ้านมากขึ้นเที่ยวตะรอนน้อยลง มีญาติมาเยี่ยมเป็นระยะ พี่พลอยอยู่ด้วยตั้ง 3อาทิตย์ มีเพื่อนบ้านที่มีเด็กวัยเดียวกัน น้องซูซานนาซึ่งพูดไทยเก่งมาก เป็นลูกครึ่งเหมือนกัน นิสัยน่ารักน่าเอ็นดู และเด็กทั้งสองก็เข้ากันได้ดี เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มีง๋องแง๋งกันบ้าง ก็ตามประสาเด็ก มีต่ออีก แต่ขอเขียนโพสท์ต่อไป

No comments: